
จากกระแสความโด่งดังแบบฉุดไม่อยู่ของซีรีส์ “Mad Unicorn: สงครามส่งด่วน” หนึ่งในตัวละครที่ถูกพูดถึงและกลายเป็นขวัญใจคนดูแบบสุดๆ ก็คือ “เหว่ยเจี๋ย” (Di Weijie) Co-Founder และ COO ของ Flash Express หรือในเรื่องคือ “รุ่ยเจี๋ย” ชายชาวจีนผู้มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้ง Thunder Express แสดงโดย “ดร.พลัง โลกศิลป์” ตัวละครผู้สร้างระบบหลังบ้านและยังเป็น “เครื่องด่า” สุดทรงพลัง
แรงบันดาลใจของ “รุ่ยเจี๋ย” ก็คือ “เหว่ยเจี๋ย” ผู้ที่เป็นเหมือนลมใต้ปีกของ “คมสัน ลี” แรงบันดาลใจของตัวละคร “สันติ” แห่ง Thunder Express ที่ในโลกจริงเป็นมือขวาคนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ Flash Express กลายเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของประเทศไทยได้สำเร็จ
ชายคนนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง? Marketing Oops! สรุปมาให้คุณอ่านในบทความนี้!
จาก “ชายใส่แตะ” สู่ผู้สร้างระบบระดับประเทศ
เรื่องราวของเหว่ยเจี๋ยเริ่มต้นขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ เมื่อเขาได้มาเจอ คุณคมสัน ลี ผู้ก่อตั้ง Flash Express ซึ่งตอนนั้น Flash Express ยังเป็นแค่ไอเดียที่ยังไม่มีแม้แต่ระบบอะไรเลย!
คุณคมสันต์ลงทุนบินไปหาเหว่ยเจี๋ยถึงจีน หลังจากที่เขาไปถามฝ่าย HR ของ Alibaba (ญาติของภรรยาคุณคมสันต์) ว่า “ถ้ามีพนักงานคนนึงลาออกแล้วคุณจะเสียใจที่สุด คนนั้นคือใคร?”
คำตอบก็คือ “เหว่ยเจี๋ย” พนักงานระดับสูงของ Alibaba ผู้ที่คร่ำหวอดและเชี่ยวชาญสุดๆด้านการวางระบบ แถมยังเป็นพนักงานดีเด่นติดต่อกัน 5 ซ้อนด้วย
ในซีรีส์มีฉากหนึ่งที่หลายคนจำได้ดี คือฉากที่เหว่ยเจี๋ยในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ เดินเข้ามาเจอสันติ (คมสันต์) ที่ใส่สูทเต็มยศ รออยู่ที่ร้านอาหารเล็กๆ ในเซี่ยงไฮ้ ฉากนี้คือจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่หลายคนมองว่า “ไม่น่าเป็นไปได้!” แต่สุดท้ายมันกลับกลายเป็นความจริงที่นำไปสู่ความสำเร็จครั้งใหญ่
ไม่ใช่แค่เที่ยวแต่พิสูจน์กันด้วย “คิวพัสดุ”
หลังจากการพบกันครั้งนั้น เหว่ยเจี๋ย ยังไม่ตอบตกลง จนกระทั่ง คุณคมสันต์ชวนเหว่ยเจี๋ยมาประเทศไทยโดยอ้างว่าจะพามาเที่ยวสงกรานต์ แต่คืนแรกกลับไม่ได้พาไปสาดน้ำ เขากลับพาเหว่ยเจี๋ยไปดูภาพพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์นับร้อยคนยืนต่อคิวส่งของยาวเหยียดที่ศูนย์รับส่งสินค้าแห่งหนึ่งที่ The Street รัชดาฯ
ตอนแรกเหว่ยเจี๋ยก็ไม่เชื่อคิดว่าคุณคมสันต์คงจ้างคนมาเข้าคิวเพื่อหลอกให้เขาร่วมธุรกิจ แต่ด้วยความเป็นนักพิสูจน์ เหว่ยเจี๋ยเลยออกไปสัมภาษณ์แม่ค้าด้วยตัวเอง เดินสำรวจเอง ถามเองทุกอย่าง จนกระทั่งเที่ยงคืน เขาโทรกลับมาหาคุณคมสันต์พร้อมประโยคที่เปลี่ยนทุกสิ่ง
“ผมพร้อมแล้ว ผมจะร่วมทำ Flash กับคุณ!”
นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
ผู้นำผู้ทุ่มเทและดุดันเพื่อผลลัพธ์องค์กร

หลายคนอาจคิดว่า “เก่ง” อย่างเดียวก็พอแล้วสำหรับการสร้างความสำเร็จ แต่สำหรับเหว่ยเจี๋ยมันต้องมาพร้อมกับ “ความทุ่มเท” แบบสุดๆ
ตลอด 1 ปีครึ่งแรกของการทำงาน เหว่ยเจี๋ยไม่เคยกลับบ้าน มีแปรงสีฟันในออฟฟิศ กางเต็นท์นอนในโกดัง บางทีก็นอนหลับบนลังพัสดุ เหว่ยเจี๋ยไม่ได้เจอหน้าลูกเลยตลอดสองปีแรก นี่คือความทุ่มเทในระดับที่คนธรรมดาคิดไม่ถึง
เหว่ยเจี๋ยขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำที่ “ไม่มีคำว่าสงสาร” เขามักโทรสอนพนักงานทุกคืน ใส่ใจรายละเอียดงานทุกแผนก และพูดจาตรงๆ แรงๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด!
ซึ่งล่าสุด! คุณคมสันต์ ลี ก็เพิ่งโพสต์ภาพคู่กับเหว่ยเจี๋ยตัวจริง พร้อมแคปชั่นยืนยันหนักแน่นว่า “ผู้ชายสุดสำคัญคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสันติ คือ WEIJIE!!! ตัวจริงด่าเก่งกว่าในหนังแน่นอน 1000%!!!”
นี่แหละคือคาแรคเตอร์ของเหว่ยเจี๋ย แม้จะดุจนบางคนถึงกับร้องไห้ แต่ทุกคนใน Flash Express ก็รู้ดีว่าถ้ามีปัญหา มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่แก้ได้
ปัจจุบันหนึ่งในคนที่เคยร้องไห้จากการโดนเหว่ยเจี๋ยดุด่า วันนี้ก็ได้เติบโตขึ้นสู่ตำแหน่ง Head of Product ของบริษัทแล้ว นี่คือเครื่องพิสูจน์ความตั้งใจจริงของเหว่ยเจี๋ยเลยก็ว่าได้
ความสัมพันธ์ที่ผลักดัน “ยูนิคอร์น”
ความสัมพันธ์ระหว่างเหว่ยเจี๋ยและคุณคมสันต์เป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญที่ทำให้ Flash Express ประสบความสำเร็จ
เหว่ยเจี๋ยเคยพูดกับคุณคมสันต์ว่า “ผมเป็นนักพายเรือที่ดีมาก แต่ผมไม่มีเรือ คุณคือเรือที่ผมรอ เรือลำนี้ต้องไปให้ถึงฝั่ง และผมจะพายจนสุดแรง”
ขณะที่คุณคมสันต์เองก็เคยแสดงความไว้วางใจคุณเหว่ยเจี๋ยแบบสุดๆ โดยเสนอให้เหว่ยเจี๋ยถือหุ้นมากกว่าตัวเอง ซึ่งคุณเหว่ยเจี๋ยก็ปฏิเสธ เพราะเขามองว่าคุณคมสันต์คือจิตวิญญาณของบริษัท
ความสัมพันธ์แบบ “คู่คิด คู่สร้าง” ที่เชื่อใจกันทำให้ Flash Express ก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ไปได้ เรียกว่าเป็นส่วนผสมระหว่างผู้ก่อตั้งที่มีวิสัยทัศน์ และมือขวาผู้เชี่ยวชาญด้านระบบที่ทุ่มเทแบบบ้าคลั่ง
ถ้าไม่มี “เหว่ยเจี๋ย” ก็ไม่มี “ยูนิคอร์น” ตัวแรกของไทย!
Flash Express กลายเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของไทยในปีที่ 5 จากบริษัทขนส่งที่เริ่มต้นจากศูนย์ ไม่มีรถ ไม่มีโกดัง ไม่มีระบบอะไรเลย! จนกลายเป็นแบรนด์ที่สามารถจัดการพัสดุได้มากกว่าล้านชิ้นต่อวัน!
เบื้องหลังความสำเร็จนี้ ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีสุดล้ำ แต่คือ “เหว่ยเจี๋ย” ชายผู้ที่ยอมนอนข้างลังพัสดุ เพื่อให้ระบบโลจิสติกส์ของ Flash Express ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง
ผู้เขียนบทและผู้กำกับแห่งโลกความจริง
ถ้า Flash Express เป็นหนังเรื่องหนึ่ง คุณคมสันต์ ลี คือตัวเอกผู้ฝ่าฟัน แต่ เหว่ยเจี๋ย คือ คนเบื้องหลัง เขียนบทกำกับตัดต่อ ลงมือทำทั้งหมดนี้ในชีวิตจริง
เหว่ยเจี๋ยคือลมใต้ปีกที่เติมเต็มในสิ่งที่คุณคมสันต์ไม่มี นำประสบการณ์จาก Alibaba มาช่วยวางระบบ ดึงดูดนักลงทุน ทำงานหนัก และยังคงเป็นมือขวาที่ขาดไม่ได้สำหรับ Flash Express จนถึงทุกวันนี้
นี่คือตัวอย่างความสำเร็จที่ชัดเจนว่า การสร้างองค์กรให้เติบโตไม่ใช่แค่มีไอเดีย หรือความสามารถเพียงคนเดียว แต่ต้องมี “เหว่ยเจี๋ย” ผู้ที่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่เราไม่มี พร้อมทุ่มเทสุดตัวเพื่อผลักดันให้ความฝันกลายเป็นจริงให้ได้
เรื่องราวนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า หนึ่งในวิธีผลักดันองค์กรสู่ความสำเร็จคือ การค้นหา “เหว่ยเจี๋ย” ของตัวเองให้เจอ คนคนนี้อาจจะเป็นมือขวา คู่คิด หรือผู้เชี่ยวชาญที่เข้ามาเสริมจุดแข็งและแก้ไขจุดอ่อน พาธุรกิจให้ไปถึงเป้าหมายได้รวดเร็วและมั่นคงมากขึ้นได้นั่นเอง